วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ยอดจองรถ Motor Expo 2011

เรามาดู 10 อันดับยี่ห้อรถ ที่มียอดจองสูงสุดในงาน  Motor Expo 2011 กันครับ โดยในปีนี้เนื่องจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ของไทย ค่ายรถยนต์รายใหญ่อย่าง Toyota และ Honda ประกาศไม่เปิดรับจองรถภายในงานครับ
1. NISSAN             4,711 คัน
2. MAZDA             4,523  คัน
3. FORD                 3,495  คัน
4. ISUZU                3,323  คัน   
5. MITSUBISHI     3,246  คัน
6. CHEVROLET    2,668  คัน
7. HYUNDAI            922  คัน
8. PROTON              595 คัน
9. SUZUKI                571 คัน
10. BMW                   439 คัน
และอื่นๆ   รวมทั้งหมดในงาน 27,021 คัน รายละเอียดเพิ่มเติม>> http://www.motorexpo.co.th/2011/bestsell.php?sort=1&f=sum

หากเราเปรียบเทียบ ยอดจองรถในงาน Motor Expo 2010
1. Toyota            8,309  คัน
2. Honda            3,919  คัน
3. Isuzu              2,902  คัน
4. Nissan           2,897  คัน
5. Mazda           2,727  คัน
6. Misubishi       1,930 คัน
7. Chevrolet       1,681 คัน
8. Ford              1,232 คัน
9. Proton           1,173 คัน
10. Hyundai          832 คัน
 และอื่นๆ   รวมทั้งหมดในงาน 33,058 คัน รายละเอียดเพิ่มเติม >> http://www.motorexpo.co.th/2010/bestsell.php
  เราสามารถสังเกตได้ว่ายอดจองของปีนี้ลดต่ำลงจากปีที่แล้วถึง 5,000 คัน เป็นเพราะอะไรหรือ มีสาเหตุจากหลายปัจจัยครับ ปัจจัยแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำท่วม ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลี่ยงการจองรถช่วงนี้ไปก่อน รออะไรๆให้ดีขึ้นก่อน ปัจจัยที่สอง ค่ายรถยนต์ยักษัใหญ่ทั้ง Toyota และ Honda ไม่ได้มีการเปิดให้จองซึ่ง 2 ยี่ห้อนี้ถือว่าเป็นยี่ห้อที่คนไทยมั่นใจ และไว้ใจมากทีเดียว แต่ทว่าสมมุติถ้าหักลบกับปีที่แล้ว และส่วนหนึ่งหันไปจองรถยี่ห้ออื่น ยอดจองของปีนี้กับปีที่แล้วจึงไม่น่าต่างกันมากครับ แต่สิ่งที่ปีนี้พิเศษกับปีที่แล้วมากๆคือ "นโยบายรถคันแรก"  ที่มีส่วนลดมากถึง 1 แสนบาท แต่ว่าทำไมยอดจองในงานนี้จึงไม่พุ่งกระชูดอย่างที่คาดการณ์กันไว้ครับ หรือ นโยบาลนี้อาจจะเป็นการช่วยเหลือที่ไม่ถูกจุดกับคนไทยส่วนใหญ่จริงๆ คนไทยส่วนใหญ่ซื้อรถคันแรก เค้าพิจารณาที่ไหนกันแน่? เพียงเงินส่วนลด หรือความพึงพอใจมากกว่า ยังไงเราลองมาลุ้นกันดูอีกครั้งนะครับ ในงาน Motor Show ว่าผู้คนจะแห่กันจองอย่างที่รัฐคาดหวังกันไว้หรือไม่

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ผลจากการใช้ถุงห่อรถกันน้ำท่วม

การคลุมหรือห่อหุ้มรถ เพื่อไม่ให้น้ำเข้ามาทำลายตัวรถเรา ได้กลายเป็นที่นิยมอีกวิธีหนึ่งดังที่ผมเคยได้รวบรวมเอาไว้ "วิธีป้องกันรถจากน้ำท่วม" แล้ววิธีดังกล่าวมันป้องกันได้จริงหรือ? วันนี้เราจะลองมาดูกันครับ...


 สภาพของรถ Mini คันหนึ่งหลังจากน้ำท่วม

ภาพด้านบน หลายท่านอาจจะเคยเห็นสื่อต่างๆกันแล้ว เป็นภาพรถยนต์ยี่ห้อดังคันหนึ่งที่มีคนอ้างว่า "เจ้าของรถคันนี้ ได้มีการหุ้มห่อรถคันนี้โดนใช้พลาสติกกันน้ำเป็นอย่างดี และหลังจากน้ำลดได้แกะพลาสติกกันน้ำออก และเค้าบอกว่าน้ำไม่ได้เข้ารถเลย แต่ต้องตกใจเพราะเห็นราขึ้นเต็มรถ อย่างที่เห็นในรูปแทน " จากรูปด้านบน ผมเองก็ไม่สามารถทราบว่าน้ำไม่ได้เข้ารถจริงหรือไม่ น้ำอาจจะเข้าไปแล้วแห้งสนิทก็เป็นไปได้ หรือน้ำไม่เข้าจริงอย่างที่มีคนบอกกัน แต่จากภาพที่เราเห็นเราสามารถเชื่อได้อย่างแน่นอน ว่าถ้าเราคันนี้น้ำเข้าท่วมด้านในจริง ก็คงไม่ถึงระดับพวงมาลัย แต่สิ่งที่เราเห็นได้คือ ราขึ้นที่พวงมาลัยด้วย...

สภาพภายในรถต่างๆ หลังจอดเราใกล้บริเวณน้ำท่วม

ภาพด้านบนเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่เจ้าของรถ ต่างบอกกันว่าจอดรถในที่อาคารหรือบริเวณบ้าน โดยน้ำไม่ได้เข้ารถแน่นอน แต่ไฉนเลย เจ้ารายังขึ้นเพียบ ลองดูภาพจากเจ้าของรถคันหนึ่งเพิ่มเติมได้ จากนี้ครับ >> http://www.bmwsociety.com/board/showboard.asp?id=137353

ฉะนั้นจากตัวอย่างที่เห็น สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนเลยครับว่า การใช้ถุงห่อหุ้มรถเพื่อกันน้ำท่วมไม่ใช่วิธีที่ดีครับ เพราะ

1. มีโอกาสเสี่ยงมากที่ถุงอาจมีรอยรั่วโดยที่เราเองไม่ทราบ ถ้าเป็นการนำรถเข้าไปจอดในถุง เศษหินเล็กๆที่อยู่บนพื้น หรือติดกับยางรถ มีโอกาสทำให้ถุงเกิดรอยรั่วน้ำซึมผ่านเข้าได้ง่ายครับ

2. แม้จะโชคดีกันน้ำได้ 100% แต่อาจจะไม่สามารถกันเชื้อราหรือแบคทีเรียได้ครับ เชื้อราอาจจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในบริเวณรถดังที่เห็นในรูป เนื่องจากความชื้นและสภาพแวดล้อมที่เจ้าเชื้อราชอบพอดี ทำให้มันกระจายตัวและเข้าไปยึดพื้นที่ในรถอันเป็นที่รักของเรา สนใจรายละเอียดเรื่องน้องเชื้อราลองดูจาก Web นี้ครับ >>http://www.school.net.th/library/webcontest2003/100team/dlns132/page01.html

 ภาพการเจริญเติบโตของรา (Mold)

ถ้าน้ำท่วมอีก การป้องกันน้ำท่วมกับรถเราที่ดีที่สุดตอนนี้คงเป็น การขับรถหนีน้ำท่วม หรือ จอดรถยังที่สูงๆ โดยที่เราก็ต้องหมั่นไปเยี่ยมเจ้ารถ เปิดประตูรถบ้าง Start รถบ้าง อย่าให้มันอยู่เดียวดายเกินอาทิตย์หนึ่งครับ และหากจะขายถุงกันน้ำห่อรถ คงต้องมีนวัตกรรมใหม่ใส่เพิ่มไปด้วยเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราพวกนี้ อาจเป็นพลาสติกทีมีสารเคลือบกันชื้น หรือสารระเหยที่สามารถใส่ในรถควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นให้คงที่ได้ครับ